TH21483A - วิธีการมอดูเลตสัญญาณเครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณ วิธีการดีมอดูเลตสัญญาณ และเครื่องเพื่อการดีมอดูเลตสัญญาณ - Google Patents

วิธีการมอดูเลตสัญญาณเครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณ วิธีการดีมอดูเลตสัญญาณ และเครื่องเพื่อการดีมอดูเลตสัญญาณ

Info

Publication number
TH21483A
TH21483A TH9501001642A TH9501001642A TH21483A TH 21483 A TH21483 A TH 21483A TH 9501001642 A TH9501001642 A TH 9501001642A TH 9501001642 A TH9501001642 A TH 9501001642A TH 21483 A TH21483 A TH 21483A
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
code
tables
requested
clause
word
Prior art date
Application number
TH9501001642A
Other languages
English (en)
Other versions
TH22672B (th
Inventor
โอคาซากิ นายโทรุ
โยชิมูระ นายชุนจิ
Original Assignee
นายดำเนิน การเด่น
นายต่อพงศ์ โทณะวณิก
นายวิรัช ศรีเอนกราธา
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
Filing date
Publication date
Application filed by นายดำเนิน การเด่น, นายต่อพงศ์ โทณะวณิก, นายวิรัช ศรีเอนกราธา, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ filed Critical นายดำเนิน การเด่น
Publication of TH21483A publication Critical patent/TH21483A/th
Publication of TH22672B publication Critical patent/TH22672B/th

Links

Abstract

ในการประดิษฐ์นี้ ตารางการแปลงผันแบบผ่านการดูเพล็กซ์อย่างบางส่วนจะได้รับการใช้เป็นตารางการแปลงผันสำหรับการแปลงผันสายข้อมูลที่มี M บิตเป็นพื้นฐานอย่างโดยตรงไปเป็นสายรหัสแบบมี N บิตเป็นพื้นฐานโดยที่ไม่มีการใช้บิตขอบ ตารางการแปลงผันเช่นนี้ได้รับการก่อตั้งขึ้นมาโดยตารางย่อยที่หนึ่งและที่สองซึ่งแต่ละตารางย่อยรวมถึงกลุ่มรหัสหลายกลุ่ม กลุ่มรหัสหลายกลุ่มนี้จะรวมถึงรหัสที่แตกต่างกันสำหรับข้อมูลอินพุตที่เหมือนกัน ตารางย่อยที่สองนี้เป็นตารางซึ่งได้รับการดูเพล็กซ์อย่างบางส่วนกับตารางย่อยที่หนึ่ง และได้รับการก่อให้เกิดขึ้นมาโดยการจัดสรรรหัสที่แตกต่างกันให้กับข้อมูลจากข้อมูลอินพุตที่หนึ่งไปเป็นข้อมูลอินพุตที่สองในตารางย่อยที่หนึ่งตารางย่อยที่หนึ่งและสองนี้จะได้รับการออกแบบ ในลักษณะที่ว่า ชุดของรหัสของส่วนที่ผ่านการดูเพล็กซ์จะใช้ค่าแปรปรวนของการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลซึ่งมีเครื่องหมายตรงกันข้าม รหัสจะได้รับการจัดสรรให้กับกลุ่มรหัสทั้งหมดในส่วนที่ผ่านการดูเพล็กซ์ของตารางย่อยที่หนึ่งและสองเทียบกับข้อมูลอินพุตอย่างเป็นลำดับจากรหัสซึ่งมีค่าสัมบูรณ์สูงสุดของค่าแปรปรวนของการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลนี้ ดังนั้น ตามรูปลักษณะนี้ องค์ประกอบความถี่ต่ำของสัญญาณที่ผ่านการมอดูเลตอาจได้รับการจำกัดอย่างเหมาะสม

Claims (9)

1.วิธีการมอดูเลตสัญญาณสำหรับการแปลงผันสายข้อมูลแบบมี M บิตเป็นพื้นฐานให้เป็นสาย รหัสแบบมี N บิตเป็นพื้นฐาน ซึ่ง M และ N เป็นเลขจำนวนเต็มที่มีความสัมพันธ์ของ M < N ซึ่งวิธีการนี้ประกอบรวมด้วย: การรับสายข้อมูลแบบ M บิตเป็นพื้นฐานนี้เข้ามาดังว่าเป็นคำข้อมูลที่หนึ่งของคำข้อมูลจำนวนหนึ่ง ; การแปรคำข้อมูลที่หนึ่งนี้ให้เป็นคำรหัสที่หนึ่งจากตารางที่หนึ่งของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่ง ที่ซึ่งจะทำให้ตารางคำรหัสทุติยภูมิเหล่านี้เกี่ยวพันกับเพียงส่วนหนึ่งของคำรหัสเหล่านี้เท่านั้น; การกำหนดหาว่าจะสามารถใช้ตารางคำรหัสทุติยภิมจำนวนหนึ่งเหล่านี้สำหรับการแปลคำข้อมูลที่สองไปเป็นคำรหัสที่สองด้วยพื้นฐานบนค่าของคำข้อมูลที่สองนี้; ถ้าสามารถใช้ตารางคำรหัสทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้สำหับการแปลคำข้อมูลที่สองนี้แล้ว การกำหนดหาว่ากจะต้องใช้ตารางคำรหัสปฐมภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้หรือตารางคำรหัสทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้สำหรับการแปลคำข้อมูลที่สองให้เป็นคำรหัสที่สองด้วยพื้นฐานบนค่าดีเอสวี; การกำหนดหาว่าจะต้องใช้ตารางใดตารางหนึ่งของตารางคำรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้ด้วยพื้นฐานบนคำข้อมูลก่อนหน้านี้ ; และ ที่ซึ่งจะมีอย่างน้อยที่สุดการรุดหน้าทั่วไปของค่าดีเอสวีสำหรับคำรหัสเหล่านี้ในแต่ละตารางของตารางปฐมภูมิจำนวนหนึ่งจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์ที่เกี่ยวพันกับค่าของคำข้อมูลต่ำสุดไปยังดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ที่เกี่ยวพันกับคำข้อมูลสูงสุด และที่ซึ่งต่อไปอีกนั้นจะมีอย่างน้อยที่สุดการรุดหน้าทั่วไปของค่าดีเอสวีสำหรับคำรหัสเหล่านี้ในตารางทุติยภูมิเหล่านี้จากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ไปยังดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์ และที่ซึ่งจะทำให้คำรหัสเหล่านี้ในตารางทุติยภูมิเหล่านี้เกี่ยวพันกับส่วนหนึ่งของคำข้อมูลเหล่านี้ในการรุดหน้าจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญค่าของคำข้อมูลต่ำสุดไปยังค่าสูงสุด 2. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งขั้นตอนของการกำหนดหาว่าจะต้องใช้ตารางใดตารางหนึ่งของตารางคำรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้สำหรับคำข้อมูลที่สองนี้จะประกอบรวมด้วยการระบุค่าสถานะที่เกี่ยวพันกับคำรหัสที่หนึ่งนี้ 3. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งยังประกอบรวมต่อไปอีกด้วยขั้นตอนของ การคัดเลือกตารางหนึ่งของตารางปฐมภูมิหรือทุติยภูมิเหล่านี้ซึ่งจะส่งผลให้ได้การแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลสะสมที่น้อยกว่า 4. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งประกอบรวมด้วยขั้นตอนของการทำให้ได้มาซึ่งรหัสจากตารางคำรหัสปฐมภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้ เมื่อได้รับการตัดสินว่าข้อมูลของคำข้อมูลที่สองนี้ไม่น้อยกว่าค่าที่กำหนดไว้แล้วล่วงหน้า 5. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 4 ซึ่งยังประกอบรวมต่อไปอีกด้วยขั้นตอนของการปรับค่าของการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลสะสมให้เป็นปัจจุบัน 6. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่งยังประกอบรวมต่อไปอีกด้วยขั้นตอนของการระบุค่าสถานะต่อไป 7. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 3 ที่ซึ่งคำรหัสเหล่านี้แต่ละคำในตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิเหล่านี้จะสอดคล้องตามกฏการมอดูเลตของการมีความยาวคลื่นที่ต่ำสุดเท่ากับ 3 T และความยาวคลื่นที่มากที่สุดเท่ากับ 11 T ด้วย T แสดงแทนวัฏจักรของสัญญาณนาฬิกาของช่องสัญญาณหนึ่งคาบ 8. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยกลุ่มจำนวนสี่กลุ่มของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิเหล่านี้ 9. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 8 ซึ่งกลุ่มที่หนึ่งของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยคำรหัสทีเริ่มต้นด้วย "0" อย่างน้อยที่สุดสองตัว 1 0. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 8 ที่ซึ่งกลุ่มที่สองของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย "0" จำนวนมากที่สุดห้าตัว และบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด(เอ็มเอสบี)ของรหัสนี้และบิตที่สี่จาก่บิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี)ของรหัสนี้เป็น "0" 1
1. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 10 ที่ซึ่งกลุ่มที่สามของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย "0" จำนวนมากที่สุดห้าตัว และบิตหนึ่งหรือทั้งสองบิตของบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของคำรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุดของรหัสนี้เป็น "1" 1
2. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 8 ที่ซึ่งกลุ่มที่สี่ของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย "1" หรือ "01" 1
3. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 9 ที่ซึ่งขั้นตอนของการกำหนดหาว่าจะต้องใช้ตารางใดตารางหนึ่งของตารางคำรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยขั้นตอนของการคัดเลือกจากกลุ่มรหัสที่หนึ่งต่อไป ถ้าคำรหัสขณะนั้นสิ้นสุดลงด้วย "1" หรือ "10" 1
4. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 11 ที่ซึ่งขั้ตอนของการกำหนดหาว่าจะต้องใช้ตารางใดตารางหนึ่งของตารางคำรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยขั้นตอนของการคัดเลือกจากกลุ่มรหัสที่สองหรือสามต่อไป ถ้าคำรหัสขณะนั้นสิ้นสุดลงด้วย "0"จำนวนสองถึงห้าตัว 1
5. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 12 ที่ซึ่งขั้นตอนของการกำหนดหาว่าจะต้องใช้ตารางใดตารางหนึ่งของตารางรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยขั้นตอนการคัดเลือกกลุ่มรหัสที่สี่ต่อไป ถ้าคำรหัสขณะนั้นสิ้นสุดลงด้วย "0" จำนวนหกถึงเก้าตัว 1
6. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 13 ซึ่งประกอบรวมด้วยขั้นตอนของการคัดเลือกคำรหัสจากกลุ่มที่หนึ่งของตารางคำรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้หลังจากการรับแบบรูปซิงก์เข้ามา 1
7. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 8 ที่ซึ่งตารางคำรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้แต่ละตารางจะมีส่วนหนึ่งซึ่งจัดสรรรหัสเดียวกันสำหรับข้อมูลอินพุตแตกต่างกันซึ่งรหัสเดียวกันนี้มีค่าสถานะที่แตกต่างกัน 1
8. วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 8 ที่ซึ่งตารางคำรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีส่วนซึ่งจัดสรรรหัสเดียวกันสำหรับข้อมูลอินพุตที่เหมือนกัน ซึ่งรหัสเดียวกันที่จัดสรรให้นี้มีค่าสถานะที่เหมือนกัน 1
9.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณสำหรับการแปลงผันสายข้อมูลแบบ M บิตให้เป็นสายรหัสแบบ N บิต ซึ่งประกอบรวมด้วย: วิถีทางการรับสำหรับการรับสายข้อมูลแบบมี M บิตเป็นพื้นฐานเข้ามาดังว่าเป็นค่าของสัญญาณอินพุต: วิธีการแปลงสำหรับการแปลงผันข้อมูลแบบมี M บิตนี้ให้เป็นรหัสแบบ N บิตในลักษณะสอดคล้องกับตารางการแปลง; และ วิถีทางเอาต์พุตสำหรับการเอาต์พุตสายรหัสแบบมี N บิตเป็นพื้นฐานดังว่าเป็นผลที่ได้ของการมอดูเลต; ที่ซึ่งตารางการแปลงนี้ประกอบรวมด้วยตารางำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งโดยที่ตารางแต่ละตารางของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิดังกล่าวได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มของตารางซึ่งกลุ่มดังกล่าวของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิแต่ละตารางต่างก็มีค่าแลขฐานสองซึ่งทั้งหมดมีแบบรูปของเลขโดดฐานสองอย่างน้อยที่สุดบางตัวที่เกี่ยวพันกับกลุ่มแต่ละกลุ่มนี้; ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิดังกล่าวจะมีคำรหัสที่อยู่ในความสมนัยแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับคำข้อมูลที่ใช้ได้จำนวนหนึ่งและได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าของดีเอสวีจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์เกี่ยวพันกับคำข้อมูลต่ำสุดไปยังดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ที่เกี่ยวพันกับคำข้อมูลสูงสุด; ซึ่งตารางคำรหัสทุติยภูมิดังกล่าวจะมีคำรหัสที่สมนัยกับเพียงส่วนหนึ่งของคำข้อมูลที่มีให้ใช้ได้เท่านั้น และที่ซึ่งคำรหัสจาการางทุติยภูมิดังกล่าวจะมีค่าดีเอสวีซึ่งได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าดีเอสวีจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีสัมพัทธ์ไปยังดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์ และที่ซึ่งคำรหัสเหล่านี้ในตารางทุติยภูมิเหล่านี้จะสมนันกับส่วนหนึ่งของคำข้อมูลเหล่านี้จากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญค่าของคำข้อมูลต่ำสุดไปยังค่าสูงสุด 2 0.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่งยังประกอบรวมต่อไปอีกด้วยค่าสถานะต่อไปจำนวนหนึ่งในความสมนัยแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับคำรหัสเหล่านี้ซึ่งค่าสถานะดังกล่าวจะระบุกลุ่มต่อไปของตารางรหัสจำนวนหนึ่งเหล่านี้ 2 1.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 20 ที่ซึ่งวิถีทางการแปลงนี้ประกอบรวมด้วย: วิถีทางการตัดสินสำหรบการตัดสินว่าข้อมูลอินพุตนี้เป็นข้อมูลระหว่างข้อมูลอินพุตที่หนึ่งและข้อมูลอินพุตที่สองหรือไม่; วิถีทางการเปรียบเทียบสำหรับการเปรียบเทียบการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลสะสมที่คำนวณโดยรหัสที่ทำให้ได้มาบนตารางย่อยทีหนึ่งนี้กับการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลสะสมที่คำนวณโดยรหัสที่ทำให้ได้มาบนตารางย่อยที่สองนี้ เมื่อได้รับการตัดสินว่าข้อมูลอินพุตนี้ได้รับการรวมอยู่ระหว่างข้อมูลอินพุตที่หนึ่งและข้อมูลอินพุตที่สองนี้; และ วิถีทางการคัดเลือกสำหรับการคัดเลือกรหัสที่ทำให้ได้มาบนตารางใดตารางหนึ่งของตารางเหล่านี้ซึ่งส่งผลที่ได้ในการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลสะสมที่น้อยกว่า 2 2.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 21 ที่ซึ่งวิถีทางการแปลงนี้ยังประกอบรวมต่อไปอีกด้วยวิถีทางสำหรับการทำให้ได้มาซึ่งรหัสจากตารางคำรหัสปฐมภูมินี้ เมื่อได้รับการตัดสินว่าข้อมูลอินพุตนี้ไม่ได้อยู่ระหว่างข้อมูลอินพุตที่หนึ่งและข้อมูลอินพุตที่สองนี้ 2 3.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 22 ซึ่งยังประกอบรวมต่อไปอีกด้วยวิถีทางสำหรับการปรับการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลสะสมนี้ให้เป็นปัจจุบัน 2 4.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 23 ซึ่งยังประกอบรวมต่อไปอีกด้วยวิถีทางสำหรับการปรับให้เป็นปัจจุบันและการคงไว้สำหรับค่าสถานะนี้ 2 5.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 21 ที่ซึ่งคำรหัสเหล่านี้ในตารางปฐมภูมิและทุติยภูมิเหล่านี้แต่ละตารางจะมีความยาวคลื่นที่ต่ำที่สุดเท่ากับ 3 T และความยาวคลื่นที่มากที่สุดเท่ากับ 11 T ด้วย T แสดงแทนวัฏจักรของสัญญาณนาฬิกาของช่องสัญญาณหนึ่งคาบ 2 6.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 25 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบด้วยกลุ่มจำนวนสี่กลุ่มของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิเหล่านี้ 2 7.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 26 ที่ซึ่งกลุ่มรหัสที่หนึ่งจะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย "0" อย่างน้อยที่สุดสองตัว 2 8.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 26 ที่ซึ่งกลุ่มรหัสที่สองจะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย "0" จำนวนมากที่สุดห้าตัว บิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น "0" 2 9.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 28 ที่ซึ่งกลุ่มรหัสที่สามจะประกอบด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย "0" จำนวนที่มากที่สุดห้าตัว บิตหนึ่งหรือทั้งสองบิตของบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของคำรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น "1" 3 0.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 26 ที่ซึ่งกลุ่มรหัสที่สี่จะประกอบรวมด้วยรหัสที่เริ่มต้นด้วย "1" หรือ "01" 3 1.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 27 ที่ซึ่งเมื่อรหัสขณะนั้นสิ้นสุดลงด้วย "1" หรือ "01" ค่าสถานะนี้จะกลายเป็น 1 พร้อมด้วยรหัสต่อไปนี้จะได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มรหัสที่หนึ่ง 3 2.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 29 ที่ซึ่งเมื่อรหัสขณะนั้นสิ้นสุดลงด้วย "0" จำนวนสองถึงห้าตัว ค่าสถานะนี้จะกลายเป็น 2 หรือ 3 พร้อมด้วย ค่าต่อไปนี้จะได้รับการคัดเลือจากกลุ่มรหัสที่หนึ่งนี้ 3 3.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 30 ที่ซึ่งเมื่อรหัสขณะนั้นสิ้นสุดลงด้วย "0" จำนวนหกถึงเก้าตัว ค่าสถานะนี้จะกลายเป็น 4 พร้อมด้วยรหัสต่อไปจะได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มรหัสที่สี่นี้ 3 4.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 31 ที่ซึ่งคำรหัสภายหลังจากแบบรูปซิงก์จะได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มรหัสที่หนึ่ง 3 5.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 25 ที่ซึ่งตารางแต่ละตารางของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีส่วนหนึ่งซึ่งจัดสรรรหัสเดียวกันสำหรับอินพุตที่แตกต่างกัน ซึ่งรหัสเดียวกันนี้มีค่าสถานะที่แตกต่างกัน 3 6.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 25 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีส่วนซึ่งจัดสรรรหัสเดียวกันนี้สำหรับข้อมูลอินพุตที่เหมือนกัน ซึ่งรหัสเดียวกันที่จัดสรรให้นี้มีค่าสถานะที่เหมือนกัน 3 7.วิธีการดีมอดูเลตสัญญาณสำหรับการแปลงผันอย่างผกผันสายรหัสแบบมี N บิตเป็นพื้นฐานเพื่อกำหนดสายข้อมูลแบบมี M บิตเป็นพื้นฐาน ซึ่ง M และ N เป็นเลขจำนวนเต็มที่มีความสัมพันธ์ของ M<N&NBSP;ซึ่งวิธีการนี้ประกอบด้วย: p 8 8.สัญญาณที่ผ่านการเข้ารหัสซึ่งได้รับการเก็บข้อมูลอยู่บนสื่อบันทึกของข้อถือสิทธิข้อ 80 ที่ซึ่งสื่อบันทึกนี้เป็นจานบันทึกทางแม่เหล็ก< 8 7.สัญญาณที่ผ่านการเข้ารหัสซึ่งได้รับการเก็บข้อมูลอยู่บนสื่อบันทึกของข้อถือสิทธิข้อ 80 ที่ซึ่งสื่อบันทึกนี้เป็นจานบันทึกทางแสง 8 6.สัญญาณท่ผ่านการเข้ารหัสตามที่ขอถือสิทธิข้อ 82 ที่ซึ่งกลุ่มที่สี่ของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย ?1? หรือ ?01? 8 5.สัญญาณท่ผ่านการเข้ารหัสตามที่ขอถือสิทธิข้อ 84 ที่ซึ่งกลุ่มที่สามของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนที่มากที่สุดห้าตัว บิตหนึ่งหรือทั้งสองบิตของบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของคำรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?1? 8 4.สัญญาณท่ผ่านการเข้ารหัสตามที่ขอถือสิทธิข้อ 83 ที่ซึ่งกลุ่มที่สองของตารางรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้ประกอบรวมด้วยคำรหัสเริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนมากที่สุดห้าตัว และบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?0? 8 3.สัญญาณท่ผ่านการเข้ารหัสตามที่ขอถือสิทธิข้อ 82 ที่ซึ่งกลุ่มที่หนึ่งของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิสี่ตารางเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยคำรหัสที่เริ่มต้นด้วย ?0? อย่างน้อยที่สุดสองตัว 8 2.สัญญาณที่ผ่านการเข้ารหัสตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 80 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยกลุ่มจำนวนสี่กลุ่มของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิเหล่านี้ 8 1.สัญญาณที่ผ่านการเข้ารหัสตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 80 ที่ซึ่งคำรหัสเหล่านี้แต่ละคำจะมีความยาวคลื่นที่ต่ำที่สุดเท่ากับ 3 T และความยาวคลื่นที่มากที่สุดเท่ากับ 11 T ด้วย T แสดงแทนวัฏจักรของสัญญาณนาฬิกาของช่องสัญญาณหนึ่งคาบ ซึ่งตารางคำรหัสทุติยภูมิดังกล่าวมีคำรหัสซึ่งสมนัยเพียงกับส่วนหนึ่งของคำข้อมูลที่มีให้ใช้ได้นี้เท่านั้น และที่ซึ่งคำรหัสจากตารางทุติยภูมิดังกล่าวมีค่าดีเอสวีซึ่งได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าดีเอสวีจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ไปยังดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์ และที่ซึ่งคำรหัสเหล่านี้ในตารางทุติยภูมิจะสมนัยกับส่วนหนึ่งของคำข้อมูลเหล่านี้; ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิดังกล่าวมีคำรหัสที่อยู่ในความสมนับแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับคำข้อมูลที่มีให้ใช้ได้จำนวนหนึ่งและได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าดีเอสวีจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์ที่เกี่ยวพันกับคำข้อมูลต่ำสุดไปยังดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ที่กี่ยวพันกับคำข้อมูลสูงสุด; ที่ซึ่งตารางการแปลงนี้ประกอบรวมด้วยตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งซึ่งตารางแต่ละตารางของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิดังกล่าวได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มของตารางโดยที่กลุ่มดังกล่าวของตารางปฐมภูมิและทุติยภูมิแต่ละกลุ่มต่างก็มีเลขฐานสองซึ่งทั้งหมดมีแบบรูปของเลขโดดฐานสองอย่างน้อยที่สุดบางตัวที่เกี่ยวพันกับกลุ่มแต่ละกลุ่มนี้; ซึ่งข้อมูลแบบ M บิตดังกล่าวได้รับการแปลงผันให้เป็นรหัสแบบ N บิตในลักษณะสอดคล้องกับตารางการแปลง; 8 1. 9.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 57 ที่ซึ่งตารางอย่างน้อยที่สุดหนึ่งตารางของตารางจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีการรุดหน้าที่แน่นอนของค่าดีเอสวี 7 8.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 47 ที่ซึ่งตารางอย่างน้อยที่สุดหนึ่งตารางของตารางจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีการรุดหน้าที่แน่นอนของค่าดีเอสวี 7 7.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 19 ที่ซึ่งตารางอย่างน้อยที่สุดหนึ่งตารางของตารางจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีการรุดหน้าที่แน่นอนของค่าดีเอสวี 7 6.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 37 ที่ซึ่งตารางอย่างน้อยที่สุดหนึ่งตารางของตารางจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีการรุดหน้าที่แน่นอนของค่าดีเอสวี 7 5.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งตารางอย่างน้อยที่สุดหนึ่งตารางของตารางจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะมีการรุดหน้าที่แน่นอนของค่าดีเอสวี 7 4.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 57 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์เป็นค่าดีเอสวีค่าลบ 7 3.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 57 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์เป็นค่าดีเอสวีค่าบวก 7 2.เครื่องของข้อถือสิทธิข้อ 47 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าลบ 7 1.เครื่องของข้อถือสิทธิข้อ 47 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าบวก 7 0.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 37 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าลบ 6 9.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 37 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าบวก 6 8.เครื่องของข้อถือสิทธิข้อ 19 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าลบ 6 7.เครื่องของข้อถือสิทธิข้อ 19 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าบวก 6 6.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าลบ 6 5.วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์นี้เป็นค่าดีเอสวีค่าบวก 6 4.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 60 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่สี่จะเริ่มต้นด้วย ?1? หรือ ?01? 6 3.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 60 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่สามจะเริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนที่มากที่สุดห้าตัว บิตหนึ่งหรือทั้งสองบิตของบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของคำรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?1? 6 2.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 60 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่สองจะเริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนมากที่สุดห้าตัว และบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?0? 6 1.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 60 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่หนึ่งจะเริ่มต้นด้วย ?0? อย่างน้อยที่สุดสองตัว 6 0.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 57 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยกลุ่มจำนวนสี่กลุ่มของตารางคำรหัสเหล่านี้ 5 9.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 57 ที่ซึ่งรหัสที่มีค่าแปรปรวนสัมบูรณ์ที่น้อยกว่าของการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทับนี้จะได้รับการจัดสรรให้กับข้อมูลที่มีค่าเชิงตัวเลขที่มากกว่า 5 8.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 57 ที่ซึ่งรหัสเหล่านี้จะมีความยาวคลื่นที่ต่ำที่สุดเท่ากับ 3 T และความยาวคลื่นที่มากที่สุดเท่ากับ 11 T ด้วย T แสดงแทนวัฏจักรของสัญญาณนาฬิกาของช่องสัญญาณหนึ่งคาบ ขั้นตอนที่เป็นการก่อเกิดตารางทุติยภูมิที่ซึ่งคำรหัสในตารางทุติยภูมินี้ได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าจากรหัสที่มีอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ถึงดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์ และที่ซึ่งคำรหัสในตารางทุติยภูมินี้ได้รับการทำให้เกี่ยวพันตามลำดับเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูลที่เป็นไปได้ทั้งหมดเท่านั้นในการรุดหน้าจากต่ำสุดไปยังสูงสุด ขั้นตอนทีเป็นการทำให้รหัสที่จัดเหล่านี้เกี่ยวกันกับข้อมูลแบบ M บิตในลักษณะที่ว่าตารางปฐมภูมิจะมีรหัสที่ซึ่งรหัสเหล่าที่มีการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทับสูงสุดสัมพัทธ์จะได้รับการทำให้เกี่ยวกันอย่างทั่วไปกับคำข้อมูลแต่ละคำในการรุดหน้าที่สมนัยกันจากค่าเชิงตัวเลขต่ำสุดไปยังสูงสุด; และ ขั้นตอนที่เป็นการจัดรหัสเหล่านี้ในตารางอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าจากรหัสที่มีการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลสูงสุดสัมพัทธ์ไปยังการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลต่ำสุดสัมพัทธ์; ขั้นตอนที่เป็นการคำนวณค่าแปรปรวนของการแปรผันของผลรวมแบบดิจิทัลของรหัสของกลุ่มรหัสจำนวนหลายกลุ่มเหล่านี้; ขั้นตอนที่เป็นการจำแนกประเภทรหัสที่คัดเลือกเหล่านี้ออกเป็นกลุ่มรหัสจำนวนหลายกลุ่มในลักษณะสอดคล้องกับเงื่อนไขบังคับแบบรูปของกลุ่มแต่ละกลุ่มนี้; ขั้นตอนที่เป็นการคัดเลือกรหัสจากแบบรูปที่เป็นไปได้ทั้งหมดของรหัสขแบบมี N บิตเป็นพื้นฐานที่มีแบบรูปอย่างน้อยที่สุดหนึ่งแบบรูปของค่าเลขฐานสอง; 5 7.วิธีการสำหรับการกำเนิดตารางการแปลงเพื่อแปลงผันสายข้อมูลแบบมี M บิตเป็นพื้นฐานให้เป็นสายรหัสแบบมี N บิตเป็นพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วย; 5 6.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 52 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่สี่จะเริ่มต้นด้วย ?1? หรือ ?01? 5 5.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 54 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่สามจะเริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนที่มากที่สุดห้าตัว บิตหนึ่งหรือทั้งสองบิตของบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของคำรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?1? 5 4.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 52 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่ส่องจเริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนมากที่สุดห้าตัว และบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?0? 5 3.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 52 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่หนึ่งจะเริ่มต้นด้วย ?0? อย่างน้อยที่สุดสองตัว 5 2.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 50 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบรวมด้วยกลุ่มจำนวนสี่กลุ่มของตารางคำรหัสเหล่านี้ 5 1.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 50 ที่ซึ่งรหัสอินพุตนี้จะมีความยาวคลื่นที่ต่ำที่สุดเท่ากับ 3 T และความยาวคลื่นที่มากที่สุดเท่ากับ 11 T ด้วย T แสดงแทนวัฏจักรของสัญญาณนาฬิกาของช่องสัญญาณหนึ่งคาบ วิถีทางสำหรับการกำหนดหาข้อมูลเอาต์พุตสำหรับรหัสอินพุตนี้ทีรับการถอดรหัสขณะนั้นในลักษณะสอดคล้องกับสถานะของรหัสอินพุตต่อไป วิถีทางสำหรับการอ่านรหัสถัดต่อไปจากรหัสอินพุตนี้ที่ได้รับการถอดรหัสขณะนั้นและการตรวจสอบสถานะของรหัสต่อไปเมื่อได้รับการตัดสินว่ารหัสอินพุตนี้ไม่เป็นรหัสที่ถอดรหัสได้อย่างเป็นได้อย่างเดียว; และ วิถีทางสำหรับการตัดสินว่ารหัสอินพุตนี้เป็นรหัสที่ถอดรหัสได้อย่างเป็นได้อย่างเดียวหรือไม่ด้วยการอ้างอิงถึงตารางการแปลงผกผันนี้; 5 0.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 48 ซึ่งวิถีทางการแปลผกผันนี้ประกอบรวมด้วย; 4 9.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 48 ที่ซึ่งรหัสอินพุตเดียวกันนี้ซึ่งทำให้เกี่ยวพันกับข้อมูลที่แตกต่างกันนี้จะเป็นของกลุ่มรหัสเดียวกัน 4 8.เครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 47 ที่ซึ่งตารางปฐมภูมิและทุติยภูมิเหล่านี้จะรวมถึงส่วนซึ่งทำให้ข้อมูลที่แตกต่างกันเกี่ยวพันกับรหัสอินพุตเดียวกัน ซึ่งตารางคำรหัสทุติยภูมิดังกล่าวจะมีคำรหัสที่สมนัยกับเพียงส่วนหนึ่งของคำข้อมูลที่มีให้ใช้ได้เท่านั้น และที่ซึ่งคำรหัสจากตารางทุติยภูมิดังกล่าวจะมีค่าดีเอสวีซึ่งได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าดีเอสวีจากค่าต่ำสุดสัมพัทธ์ไปยังค่าสูงสุดสัมพัทธ์ และที่ซึ่งคำรหัสดังกล่าวจะสมนับกับส่วนของคำข้อมูลแต่ละค่าต่ำสุดไปยังค่าสูงสุด ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิดังกล่าวจะมีคำรหัสที่อยู่ในความสมนับแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับคำข้อมูลที่มีให้ใช้ได้จำนวนหนึ่งและได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าดีเอสวีจากดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์ที่เกี่ยวพันกับคำรหัสต่ำสุดไปยังดีเอสวีสุดสัมพัทธ์ที่สมนัยกับค่าของคำข้อมูลสูงสุด; ซึ่งตารางการแปลงผกผันนี้ประกอบรวมด้วยตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งโดยที่ตารางแต่ละตารางของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิดังกล่าวได้รับการจัดในกลุ่มของตารางซึ่งกลุ่มดังกล่าวของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิแต่ละตารางต่างก็มีค่าเลขฐานสองซึ่งทั้งหมดมีแบบรูปของเลขโดดฐานสองอย่างน้อยที่สุดบางตัวที่เกี่ยวพันกับกลุ่มแต่ละกลุ่มนี้; วิถีทางเอาต์พุตสำหรับการเอาต์พุตสายข้อมูลแบบมี M บิตเป็นฐานดังว่าเป็นผลที่ได้ของการดีมอดูเลต; วิถีทางการแปลงผกผันสำหรับการแปลงผันอย่างผกผันรหัสอินพุตแบบ N บิตนี้ให้เป็นข้อมูลแบบ M บิตในลักษณะสอดคล้องกับตารางการแปลงผกผัน; และ วิถีทางการรับสำหรับการรับสายรหัสอินพุตแบบมี N บิตเป็นพื้นฐานนี้เข้ามา; 4 7.เครื่องเพื่อการดีมอดูเลตสัญญาณสำหรับการแปลงผันอย่างผกผันสายรหัสแบบมี N บิตเป็นพื้นฐานเพื่อกำเนิดสายข้อมูลแบบมี M บิตเป็นพื้นฐาน ซึ่ง M และ N เป็นเลขจำนวนเต็มที่มีความสัมพันธ์ของ M<N ซึ่งเครื่องนี้ประกอบรวมด้วย; 4 6.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 42 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่สี่จะเริ่มต้นด้วย ?1? หรือ ?01? 4 5.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 44 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่สามจะเริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนที่มากที่สุดห้าตัว บิตหนึ่งหรือทั้งสองบิตของบิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของคำรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?1? 4 4.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 42 ที่ซึ่งกลุ่มรหัสที่สองจะเริ่มต้นด้วย ?0? จำนวนมากที่สุดห้าตัว บิตที่หนึ่งจากบิตนัยสำคัญสูงสุด (เอ็มเอสบี) ของรหัสนี้และบิตที่สี่จากบิตนัยสำคัญน้อยสุด (แอลเอสบี) ของรหัสนี้เป็น ?0? 4 3.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 42 ที่ซึ่งคำรหัสในกลุ่มรหัสที่หนึ่งนี้จะเริ่มต้นด้วย ?0? อย่างน้อยที่สุดสองตัว 4 2.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 40 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งเหล่านี้จะประกอบด้วยกลุ่มรหัสจำนวนสี่กลุ่ม 4 1.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 40 ที่ซึ่งรหัสอินพุตนี้จะมีความยาวคลื่นที่ต่ำที่สุดกับ 3 T และความยาวคลื่นที่มากที่สุดเท่ากับ 11 T ด้วย T แสดงแทนวัฏจักรของสัญญาณนาฬิกาของช่องสัญญาณหนึ่งคาบ การกำหนดหาข้อมูลเอาต์พุตสำหรับรหัสอินพุตนี้ที่ได้รับการถอดรหัสขณะนั้นด้วยพื้นฐานบนสถานะของรหัสอินพุตต่อไป การอ่านรหัสถัดต่อไปจากรหัสถัดต่อไปจากรหัสอินพุตนี้ที่ได้รับการถอดรหัสขณะนั้นและการตรวจสอบสถานะของรหัสต่อไปเมื่อได้รับการตัดสินว่ารหัสอินพุตนี้ไม่เป็นรหัสที่ถอดรหัสได้อย่างเป็นได้อย่างเดียว; และ การตัดสินว่ารหัสอินพุตนี้เป็นรหัสที่ถอดรหัสได้อย่างเป็นได้อย่างเดียวหรือไม่; 4 1. 9.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 38 ที่ซึ่งรหัสอินพุตเดียวกันนี้ซึ่งทำให้เกี่ยวพันกับข้อมูลที่แตกต่างกันนี้จะเป็นกลุ่มรหัสที่หนึ่ง 3 8.วิธีการมอดูเลตสัญญาณตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 37 ที่ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิเหล่านี้จะรวมถึงส่วนซึ่งทำให้คำข้อมูลที่แตกต่างกันเกี่ยวพันกับรหัสอินพุตเดียวกัน ซึ่งตารงคำรหัสทุติยภูมิดังกล่าวจะมีคำรหัสที่สมนับเพียงส่วนหนึ่งของคำข้อมูลที่มีให้ใช้ได้เท่านั้น และที่ซึ่งคำรหัสจากตารางทุติยภูมิดังกล่าวจะมีค่าดีเอสวีซึ่งได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าดีเอสวีจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ไปยังดีเอสวีสูงสุดสัมพันธ์ และที่ซึ่งคำรหัสทุติยภูมิดังกล่าวจะสมนัยกับช่วงพิสัยหนึ่งของคำข้อมูลจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญค่าต่ำสุดไปยังค่าสูงสุด ซึ่งตารางคำรหัสปฐมภูมิดังกล่าวจะมีคำรหัสที่อยู่ในความสมนัยแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับคำข้อมูลที่มีให้ใช้ได้จำนวนหนึ่งและได้รับการจัดอย่างน้อยที่สุดโดยทั่วไปในการรุดหน้าของค่าดีเอสวีจากอย่างน้อยที่สุดเป็นสำคัญดีเอสวีสูงสุดสัมพัทธ์เกี่ยวพันกับคำข้อมูลต่ำสุดไปยังดีเอสวีต่ำสุดสัมพัทธ์ที่เกี่ยวพันกับคำข้อมูลสูงสุด; ซึ่งตารางการแปลงผกผันนี้ประกอบรวมด้วยตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิจำนวนหนึ่งโดยที่ตารางแต่ละตารางของตารางคำรหัสปฐมภูมิและทุติยภูมิดังกล่าวได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มของตารางซึ่งกลุ่มดังกล่าวของตารางปฐมภูมิและทุติยภูมิแต่ละตารางต่างก็มีค่าเลขฐานสองซึ่งทั้งหมดมีรูปแบบของเลขโดดฐานสองอย่างน้อยที่สุดบางตัวที่เกี่ยวพันกับกลุ่มแต่ละกลุ่มนี้; ขั้นตอนที่สามที่เป็นการเอาต์พุตสายข้อมูลแบบมี M บิตเนพื้นฐานดังว่าเป็นผลที่ได้ของการการดีมอดูเลต, ขั้นตอนที่สองที่เป็นการแปลงผันอย่างผกผันรหัสอินพุตแบบ N บิตนี้ให้เป็นข้อมูลแบบ M บิตในลักษณะสอดคล้องกับตารางการแปลงผกผัน; และ ขั้นตอนที่หนึ่งเป็นการรับสายรหัสอินพุตแบบมี N บิตเป็นพื้นฐาน;>
TH9501001642A 1995-07-07 วิธีการมอดูเลตสัญญาณเครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณ วิธีการดีมอดูเลตสัญญาณ และเครื่องเพื่อการดีมอดูเลตสัญญาณ TH22672B (th)

Publications (2)

Publication Number Publication Date
TH21483A true TH21483A (th) 1996-10-29
TH22672B TH22672B (th) 2007-10-12

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
FI121357B (fi) Menetelmä informaatiosanojen konvertoimiseksi ja tallennusvälineen tuottamiseksi, laite laiteinformaation tallentamiseksi, signaali, tallennusväline ja dekoodauslaite
US4677421A (en) Digital information signal encoding method with reduced run length and improved self-clocking
CA2171113C (en) Signal modulating method, signal modulating apparatus, signal demodulating method and signal demodulating apparatus
JP3754080B2 (ja) mビットの情報語の系列を変調信号に変換する方法、コード装置及び記録装置
GB2305582A (en) Channel encoding and decoding for eight to fourteen modulation using merging bits
JP3722331B2 (ja) 変調装置および方法、並びに記録媒体
JP3306271B2 (ja) 符号化方法、符号化回路、及び復号回路
US5008669A (en) Encoding/decoding system for optical recording/reading
US6771195B2 (en) Encoding/decoding n-bit source words into corresponding m-bit channel words, and vice versa, such that the conversion is parity inverting
US6225921B1 (en) Device for encoding/decoding n-bit source words into corresponding m-bit channel words, and vice versa
KR100274213B1 (ko) Rll(2,25)코드를 이용한 7/13 채널코딩 및 채널디코딩방법
JP2004518241A (ja) 一連のmビットの情報ワードを被変調信号に変換する方法
US6545615B2 (en) Device for encoding a stream of databits of a binary source signal into a stream of databits of a binary channel signal, memory means, device for recording information, record carrier, device for coding and device for playing back
TH21483A (th) วิธีการมอดูเลตสัญญาณเครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณ วิธีการดีมอดูเลตสัญญาณ และเครื่องเพื่อการดีมอดูเลตสัญญาณ
US5969651A (en) Signal modulating method, signal modulating apparatus, signal demodulating method and signal demodulating apparatus
KR100908763B1 (ko) 데이터 스트림을 코딩하는 방법
JPH06311042A (ja) デジタル変調装置
TH22672B (th) วิธีการมอดูเลตสัญญาณเครื่องเพื่อการมอดูเลตสัญญาณ วิธีการดีมอดูเลตสัญญาณ และเครื่องเพื่อการดีมอดูเลตสัญญาณ
IL127149A (en) Digital signal modulation method and apparatus
JPH01221923A (ja) 可変長符号変換方法