TH23318A - สารผสมของพอลิโอลีฟิน กราฟท์ โคพอลิเมอร์ และพอลิคาร์บอเนท - Google Patents

Abstract

ที่เปิดเผยไว้คือสารผสมซึ่งประกอบด้วยสารต่อไปนี้โดยน้ำหนัก (a) กราฟท์ โค พอลิเมอร์ประมาณ 94% ถึงประมาณ 30% ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างหลักของวัสดุโพรพิ ลีน พอลิเมอร์ ซึ่งเกิดพอลิเมอร์แบบกราฟท์ที่มอนอเมอร์ทีนัน เกิดเป็นโคพอลิเมอร์ หรือ เทอร์พอลิเมอร์ ที่กราฟท์แล้ว เลือกมอนอเมอร์จากกลุ่มที่ประกอบด้วย (i) สไทรีน และ แอคริโลไนทริล และ (ii) สไทรีน และแมลีอิค แอนไฮไดรด์ หรือ แอลฟา-เมธิลสไทรีน สไทรีน และแมลีอิค แอนไฮไดรด์ ซึ่งมีโคพอลิเมอร์หรือเทอร์พอลิเมอร์ที่กราฟท์แล้วที่ เกิดจาก (i) หรือ (ii) ในปริมาณประมาณ 10 ถึงประมาณ 95 ส่วนต่อ 100 ส่วนของวัสดุ โพรพิลีน พอลิเมอร์ (b) แอโรแมทิค พอลิคาร์บอเนท อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดประมาณ 5% ถึงประมาณ 40% และ (e) แอลิแฟทิค พอลิเอสเทอร์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด ประมาณ 1% ถึงประมาณนี้ 15% สารผสมนั้นอาจเลือกให้ประกอบด้วยส่วนประกอบ ของยางหนึ่งชนิดหรือมากกว่า ประมาณ 5% ถึงประมาณ 20% วัสดุโพรพิลีน พอลิเมอร์ ประมาณ 1% ถึงประมาณ 50% หรือทั้ง 2 ชนิดได้เช่นกัน

Claims (2)

1. สารผสมของการประดิษฐ์นี้ประกอบด้วยสารต่อไปนี้ โดยน้ำหนัก (a) กราฟท์ โคพอลิเมอร์ ประมาณ 94% ถึงประมาณ 30% ซึ่ง ประกอบด้วยโครงสร้างหลักของวัสดุ โพรพิลีน พอลิเมอร์ ซึ่งเกิดพอลิเมอร์แบบกราฟท์ กับมอนอเมอร์ที่นั่นเกิดเป็นโคพอลิเมอร์ หรือเทอร์พอลิเมอร์ที่กราฟท์ เลือกมอนอเมอร์ จากกลุ่มที่ประกอบด้วย (i) สไทรีน และ แอคริโลไนทริล ซึ่งปริมาณของ แอคริโลไนทริล คือประมาณ 15% ถึงประมาณ 35% เทียบกับน้ำหนักทั้งหมดของมอนอเมอร์ และ (ii) สไทรีน และแมลีอิค แอไฮไดรด์ หรือแอฟลา-เมธิลสไทรีน สไทรีน และแมลีอิค แอนไฮ ไดรด์ ซึ่งประกอบด้วย แอฟา-เมธิลสไทรีน 0 ถึงประมาณ 45% ประกอบด้วย สไทรีน ประมาณ 10% ถึงประมาณ 60% และประกอบด้วยแมลีอิค แอนไฮไดรด์ ประมาณ 5% ถึงประมาณ 45% เทียบกับน้ำหนักทั้งหมดของมอนอเมอร์ และมีโคพอลิเมอร์หรือเทอร์ พอลิเมอร์ที่กราฟท์แล้วที่เกิดจากมอนอเมอร์ (i) หรือ (ii) ในปริมาณประมาณ 10 ถึง ประมาณ 95 ส่วนต่อ 100 ส่วนของวัสดุโพรพิลีน พอลิเมอร์ (b) แอโรแมทิค พอลิคาร์บอเนท อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด ประมาณ 5% ถึง ประมาณ 40% และ (e) แอลิแฟทิค พอลิเอสเทอร์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด ประมาณ 1% ถึง ประมาณ 15% ซึ่งมีหน่วยโครงสร้างของเอสเทอร์ซ้ำกันของสูตร ( สูตรเคมี ) หรือ ( สูตรเคมี ) ซึ่ง เลือก R1, R2, R3 และ R4 แต่ละหมู่จากกลุ่มที่ประกอบด้วย H CH3 หรือหมู่แอลคิล แบบเส้นหรือกิ่ง x และ y แต่ละค่าคือ 1-20 หรือมากกว่า และ (a)+(b)+(c) = 100% 2. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเลือกวัสดุโพรพิลีนพอลิเมอร์ของส่วน ประกอบ (a) จากกลุ่มที่ประกอบด้วย (i) โฮโมพอลิเมอร์ของโพรพิลีน (ii) โคพอลิเมอร์ แบบสุ่มของโพรพิลีน และโอลิฟิน ซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเอธิลีน และ C4-C10- โอลีฟิน โดยมีข้อกำหนดว่า เมื่อโอลิฟีน คือเอธิลีน ปริมาณสูงสุดของเอธิลีนที่เกิดเป็นพอ ลิเมอร์ คือประมาณ 10% โดยน้ำหนักและเมื่อโอลีฟินคือ C4-C10-โอลีฟิน ปริมาณสูงสุด ของสารนี้ที่เกิดเป็นพอลิเมอร์ คือประมาณ 20% โดยน้ำหนัก และ (iii) เทอร์พอลิเมอร์ แบบสุ่มของโพรพิลีน และโอลีฟิน เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย เอธิลีน และ C4-C8-1 โอลีฟิน โดยมีข้อกำหนดว่า ปริมาณสูงสุดของ C4-C8-1 โอลีฟิน ที่เกิดเป็นพอลิเมอร์คือ ประมาณ 20% โดยน้ำหนัก และเมื่อเอธิลีนคือชนิดหนึ่งของโอลีฟินนี้, ปริมาณสูงสุด ของ เอธิลีนที่เกิดเป็นพอลิเมอร์ คือประมาณ 5% โดยน้ำหนัก 3. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งวัสดุโพรพิลีน พอลิเมอร์ คือ โพรพิลีน โฮโมพอลิเมอร์ 4. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง พอลิคาร์บอเนท คือ ไดไฮดริค ฟีนอล พอลิคาร์บอเนท 5. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 4 ซึ่งไดไฮดริค ฟีนอล พอลิคาร์บอเนท คือ บิสพีนอล-A พอลิคาร์บอเนท 6. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมีพอลิคาร์บอเนทในปริมาณ ประมาณ 10% ถึงประมาณ 30% โดยน้ำหนัก 7. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 6 ซึ่งมีพอลิคาร์บอเนทในปริมาณ ประมาณ 20% ถึงประมาณ 30% โดยน้ำหนัก 8. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเลือกแอลิแฟทิค พอลิเอสเทอร์ จาก กลุ่มที่ประกอบด้วยพอลิคาโปรแลคโทน พอลิบิวทิลีน แอดิเพท พอลิเอธิลีน ซัคซิเนท พอลิ (2,2-ไดเมธิล-1,3-โพรพิลีน) ซัคซิเนท พอลิ (นีโอเพนทิล ไกลคอล ซีบาเคท) โคพอ ลิเมอร์ แบบกลุ่มของพอลิยูรีเธน และพอลิคาร์โปรแลคโทน และ โคพอลิเมอร์แบบกลุ่ม ของพอลิยูริเธน และพอลิเอธิลีน แอดิเพท 9. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 8 ซึ่งแอลคิลแฟทิค พอลิเอสเทอร์ คือพอลิคา โปรแลคโทน 1 0. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมี แอลิแฟทิค พอลิเอสเทอร์ ในปริมาณ ประมาณ 2% ถึงผระมาณ 7% โดยน้ำหนัก 1 1. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งประกอบเพิ่มเติมด้วย (d) คือส่วน ประกอบของยางหนึ่งชนิดหรือมากกว่าประมาณ 5% ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนัก ซึ่ง เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย (i) ยางโอลีฟิน โคพอลิเมอร์ (ii) โคพอลิเมอร์แบบกลุ่มของ โมโนแอลคีนิล แอโรแมทิค ไฮโดรคาร์บอน-คอนจูเกเทด ไดอีน และ (iii) ยางแกนเปลือก (core shell rubbers) และ (a)+(b)+(c)+(d) = 100% 1 2. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่งส่วนประกอบของยางคือ โคพอลิเมอร์ แบบกลุ่มของโมโน แอลคีนิล แอโรแมทิค ไฮโดรคาร์บอน-คอนจูเกเทด ไดอีน 1 3. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 12 ซึ่งส่วนประกอบของยางคือ โคพอลิเมอร์ แบบกลุ่มของไฮโดรจีเนเทด สไทรีน/ไอโซปรีน 1 4. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่งมีส่วนประกอบของยางในปริมาณ ประมาณ 5% ถึง 15% โดยน้ำหนัก 1 5. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งประกอบเพิ่มเติมด้วย (e) คือวัสดุโพรพิ ลีนพอลิเมอร์ประมาณ 1% ถึงประมาณ 50% โดยน้ำหนัก และ (a)+(b)+(c)+(e) = 100% 1 6. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่งประกอบเพิ่มเติมด้วย (e) คือ วัสดุ โพรพิลีน พอลิเมอร์ ประมาณ 1% ถึงประมาณ 50% โดยน้ำหนัก และ (a)+(b)+(c)+ (d)+(e) = 100% 1 7. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งเลือกวัสดุโพรพิลีน พอลิเมอร์ จาก กลุ่มที่ประกอบด้วย (i) โฮโมพอลิเมอร์ของโพรพิลีน (ii) โคพอลิเมอร์แบบสุ่มของ โพรพิ ลีน และ โอลีฟิน ซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย เอธิลีน และ C4-C10-โอลีฟิน โดยมีข้อ กำหนดว่าโอลีฟิน คือ เอธิลีน ปริมาณสูงสุดของเอธิลีนที่เกิดเป็นพอลิเมอร์ คือ ประมาณ 10% โดยน้ำหนัก และเมื่อโอลีฟิน คือ C4-C10-โอลีฟิน ปริมาณสูงสุดของสารนี้ที่เกิดเป็น พอลิเมอร์ คือประมาณ 20% โดยน้ำหนัก (iii) เทอร์พอลิเมอร์แบบสุ่มของโพรพิลีน และ โอลีฟินที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเอธิลีน และ C4-C8 1-โอลีฟิน โดยมีข้อกำหนดว่า ปริมาณสูงสุด C4-C8 1-โอลีฟิน ที่เกิดเป็น พอลิเมอร์ คือประมาณ 20% โดยน้ำหนัก และเมื่อเอธิลีน คือชนิดหนึ่งของโอลีฟิน ปริมาณสูงสุดของเอธิลีนที่เกิดเป็นพอลิเมอร์ คือประมาณ 5% โดยน้ำหนัก และ (iv) โฮ โมพอลิเมอร์ หรือโคพอลิเมอร์แบบสุ่มของโพรพิลีนซึ่งดัดแปรความทนแรงกระแทกด้วย ยาง เอธิลีน-โพรพิลีน มอนอเมอร์ หรือยาง เอธิลีน/โพรพิลีน/บิวทิล มอนอเมอร์ ชนิดใด ชนิดหนึ่งเครื่องปฏิกรณ์ หรือโดยการผสมทางกายภาพ ปริมาณของยาง เอธิลีน- โพรพิลีน มอนอเมอร์หรือยางเอธิลีน/โพรพิลีน/บิวทีน มอนอเมอร์ ของพอลิเมอร์ที่ดัดแปร แล้ว อยู่ในช่วงประมาณ 5% ถึงประมาณ 70% และปริมาณเอธิลีนของยางอยู่ในช่วง ประมาณ 7% ถึงประมาณ 70% โดยน้ำหนัก 1 8. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 17 ซึ่งวัสดุโพรพิลีน พอลิเมอร์ คือ โพรพิลีน โฮโมพอลิเมอร์ 1 9. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งประกอบด้วยสารต่อไปนี้โดยน้ำหนัก (a) กราฟท์ โคพอลิเมอร์ ประมาณ 94 ถึงประมาณ 45% ซึ่งประกอบ ด้วยวัสดุโพรพิลีน พอลิเมอร์ซึ่งมีมอนอเมอร์ที่เกิดเป็นกราฟท์ พอลิเมอร์ที่นั่น ซึ่ง ประกอบด้วยสไทรีน ประมาณ 80% ถึงประมาณ 75% แอคริโลไนทริล ประมาณ 20% ถึงประมาณ 25% เทียบกับน้ำหนักทั้งหมดของมอนอเมอร์ มีมอนอเมอร์ที่เกิดเป็นพอลิ เมอร์ในปริมาณประมาณ 50 ส่วนต่อ 100 ส่วน ถึงประมาณ 95 ส่วนต่อ 100 ส่วน (b) บิสฟีนอล-A พอลิคาร์บอเนท ประมาณ 5% ถึงประมาณ 40% (c) พอลิคาโปรแลคโทน ประมาณ 1% ถึงประมาณ 15% และ (d) โคพอลิเมอร์แบบกลุ่มของไฮโดรเนเทดสไทรีนที่มีหมู่ฟังก์ชันแนล เป็นกรดหรือ แอนไฮไดรด์ ซึ่ง (a)+(b)+(c)+(d) = 100% 2 0. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่งประกอบเพิ่มเติมด้วย (e) คือโพรพิลีน โฮโมพอลิเมอร์ ประมาณ 5% ถึงประมาณ 40% ซึ่งมีกราฟท์ โคพอลิเมอร์ (a) ในปริมาณ ประมาณ 30% ถึงประมาณ 65% และมีพอลิคาร์บอเนท (b) ในปริมาณประมาณ 10% ถึงประมาณ 30% และ (a)+(b)+(c)+(d)+(e) = 100% 2

1. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งประกอบด้วย (a) กราฟท์ โคพอลิเมอร์ ประมาณ 94 ถึงประมาณ 45% ซึ่ง ประกอบด้วยวัสดุโพรพิลีน พอลิเมอร์ ซึ่งเกิดพอลิเมอร์แบบกราฟท์กับมอนอเมอร์ที่นั่น ซึ่งประกอบด้วยแอลฟา-เมธิลสไทรีน ประมาณ 40% สไทรีน ประมาณ 20% และแมลีอิค แอนไฮไดรด์ ประมาณ 40% เทียบกับน้ำหนักทั้งหมดของมอนอเมอร์มีมอนอเมอร์ที่เกิด เป็นพอลิเมอร์ในปริมาณประมาณ 50 ส่วนต่อ 100 ส่วน ถึงประมาณ 95 ส่วนต่อ 100 ส่วน (b) บิส-ฟีนอล A พอลิคาร์บอเนท ประมาณ 5% ถึงประมาณ 40% (c) พอลิคาร์โปรแลคโทน ประมาณ 1% ถึงประมาณ 15% (d) โคพอลิเมอร์แบบกลุ่มของไฮโดรจีเนเทดสไทรีนที่มีหมู่ฟังก์ชัน เป็นกรดหรือแอนไฮไดรด์ ซึ่ง (a)+(b)+(c)+(d) = 100% 2

2. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งประกอบเพิ่มเติมด้วย (e) คือ โพรพิ ลีน โฮโมพอลิเมอร์ ประมาณ 5% ถึงประมาณ 40% ซึ่งมีกราฟท์ โคพอลิเมอร์ (a) ใน ปริมาณประมาณ 30% ถึงประมาณ 65% และมีพอลิคาร์บอเนท (b) ในปริมาณ ประมาณ 10% ถึง ประมาณ 30% และ (a)+(b)+(c)+(d)+(e) = 100%