TH15209A3 - หม้อต้มน้ำต้มยาไฟฟ้า - Google Patents

Abstract

------10/09/2561------(OCR) หน้าที่ 1 ของจำนวน 1 หน้า บทสรุปการประดิษฐ์ หม้อต้มนํ้าต้มยาไฟฟ้า ที่มีวงจรไฟฟ้าสำหรับใช้ในการต้มนํ้าหรือต้มยา มีลักษณะรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับหม้อต้มนํ้าไฟฟ้าทั่วไป จะมีแตกต่างในส่วนของวงจรไฟฟ้าที่อยู่ภายใน ซึ่งมีทั้งแบบต้มยาเพียงเดียวและแบบเลือกโหมดการทำงานว่าจะต้มนํ้าหรือต้มยา การทำงานของส่วนการต้มยาจะต้องตั้งระดับนํ้าที่ต้องการให้เหลืออยู่ในหม้อ เมื่อนํ้าเดือดจะยังไม่มีการตัดกระแสไฟที่ไหลเข้าลวดความร้อนสำหรับต้ม เมื่อน้ำเดือดและระเหยเป็นไอจนปริมาณนํ้าในหม้อลดลงถึงระดับที่ตั้งไว้ โดยการตรวจจับของเซ็นต์เซอร์ กระแสไฟที่ไหลเข้าลวดความร้อนสำหรับต้มจะถูกตัดหรือเปิดวงจร จะคงไว้แต่ลวดความร้อนสำหรับอุ่นเท่านั้น ทำให้นํ้าในหม้อเหลือตามต้องการ ส่วนในกรณีของการต้มนํ้า เมื่อนํ้าเดือดเทอร์โมสตัทจะเปิดวงจรทำให้กระแสไฟที่ไหลเข้าลวดความร้อนสำหรับต้มถูกตัด ------------ หน้าที่ 1 ของจำนวน 1 หน้า บทสรุปการประดิษฐ์ กาต้มนํ้าต้มยาไฟฟ้าตามการประดิษฐ์นี้ มีลักษณะรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับกาต้มนํ้าไฟฟ้าทั่วไป จะมีแตกต่างในส่วนของวงจรไฟฟ้าที่อยู่ภายใน ซึ่งประกอบด้วยวงจรสวิทซ์สำหรับเลือกโหมดการทำงานว่าจะ ใช้โหมดต้มน้ำร้อน หรือจะใช้โหมดต้มยา โดยโหมดต้มนํ้าร้อน เมื่อนํ้าเดือดจะตัดกระแสไฟไม่ให้ไหลผ่าน ลวดความร้อนสำหรับต้ม จะคงไว้แต่ลวดความร้อนสำหรับอุ่นเท่านั้น แต่ถ้าเลือกโหมดต้มยา จะต้องตั้งระดับ น้ำที่ต้องการให้เหลืออยู่ในหม้อ เมื่อน้ำเดือดจะยังไม่มีการตัดกระแสไฟที่ไหลเข้าลวดความร้อนสำหรับต้ม เมื่อ นํ้าเดือดและระเหยเป็นไอจนปริมาณนํ้าในหม้อลดลงถึงระดับที่ตั้งไว้ โดยการตรวจจับของเซ็นต์เซอร์ กระแสไฟ ที่ไหลเข้าลวดความร้อนสำหรับต้มจะถูกตัดหรือเปิดวงจร จะคงไว้แต่ลวดความร้อนสำหรับอุ่นเท่านั้น กาต้มนํ้า ต้มยาตามการประดิษฐ์นี้จะช่วยให้การต้มยาไม่ใช่เรื่องยากลำบากอีกต่อไป

Claims (2)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------10/09/2561------(OCR) หน้าที่ 1 ของจำนวน 2 หน้า ข้อถือสิทธิ 1. หม้อต้มนํ้าต้มยาไฟฟ้า ประกอบด้วยวงจรไฟฟ้าสำหรับต้มนํ้าต้มยาที่มี เทอร์โมสตัท (11) เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่ตัดวงจรกระแสไฟเมื่อเกิดความร้อนเกินกว่าที่ระบุไว้ที่ตัวเทอร์โมสตัทนี้ ต่ออนุกรมกับแหล่งจ่ายไฟกระแสสลับ (10) และต่ออนุกรมกับขาไฟเข้าของ ลวดความร้อน(12) เมื่อกระแสไฟไหลผ่านอุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้จะทำให้ลวดความร้อน (12) เกิดความร้อนขึ้น และความร้อนนี้จะถูกถ่ายเทไปสู่หม้อต้มนํ้าและนํ้าในหม้อต้มด้วย โดยมีลักษณะพิเศษดังนี้ เทอร์โมสตัท (11) ต่ออนุกรมกับรีเลย์ (Relay) (18) ที่ขาคอม (Common) และขาปกติปิด (NC) ของรีเลย์ (18) ต่ออนุกรมกับลวดความร้อน (13) เมื่อกระแสไฟไหลผ่านเทอร์โมสตัท (11) ผ่านรีเลย์ (18) และผ่านลวดความร้อน (13) ทั้งสามตัวนี้จะทำให้ลวดความร้อน (13) เกิดความร้อนขึ้น และความร้อนนี้จะถูกถ่ายเทไปสู่หม้อต้มและนํ้าในหม้อต้มด้วยทำให้นํ้าเดือด เรียกว่าต้มนํ้าให้ระเหยเป็นไอ จากการที่มีกระแสไฟไหลผ่านรีเลย์ (18) จึงมีกระแสไฟไหลผ่านหลอดไฟเปล่งแสง (17) และตัวต้านทาน (15) ด้วย ทำให้หลอดไฟเปล่งแสง (17) ติดสว่าง แสดงสถานะต้มนํ้า เซ็นเซอร์แม่เหล็ก (20) ซึ่งเป็นชนิดปกติเปิด ขาข้างหนึ่งต่ออนุกรมกับขาขดลวด (Coil) ของรีเลย์ (18)ต่อกนุกรมกับแหล่งจ่ายกระแสไฟตรง (19) และมาต่อกับขาอีกข้างของเซ็นเซอร์แม่เหล็ก (20) แม่เหล็กถาวร (21) จะถูกห่อหุ้มหรือมีฐานลอยนํ้าอยู่ในหลอดแก้ว จะเลื่อนขึ้น/ลงตามระดับนํ้าในหม้อต้ม เมื่อนํ้าในหม้อต้มลดระดับลงจนแม่เหล็กถาวร (21) อยู่ในระดับที่เซ็นเซอร์แม่เหล็ก (20) ตรวจจับได้จะทำให้กระแสไฟตรงจาก (19) ไหลผ่านไปสู่รีเลย์ (18) มีผลทำให้ขาคอมกับขาปกติปิดของรีเลย์ (18) เปิดออก ทำให้กระแสไฟสลับไหลผ่านไปสู่ลวดความร้อน (13) ไม่ได้ เรียกว่าหยุดต้มนํ้า นํ้าในหม้อต้มจะเหลือตามที่ต้องการ จากการที่ไม่มีกระแสไฟไหลผ่านรีเลย์ (18) ทำให้กระแสไฟไหลผ่านตัวต้านทาน (14) และหลอดไฟเปล่งแสง (16) ทำให้หลอดไฟเปล่งแสง (16) ติดสว่าง แสดงสถานะอุ่น 2. หม้อต้มนํ้าต้มยาไฟฟ้า ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ยังประกอบด้วย สวิตซ์ (23) ซึ่งเป็นสวิตซ์ 2 ทาง ใช้สำหรับเลือกโหมดการทำงานว่าจะต้มนํ้าหรือต้มยา และเทอร์โมสตัท (22) โดยมีการประกอบวงจรดังนี้ เทอร์โมสตัท (11) ต่ออนุกรมกับขาคอม (Common) ของสวิตซ์ (23) และ หน้าที่ 2 ของจำนวน 2 หน้า สวิตซ์ (23) ขาข้างหนึ่งต่ออนุกรมกับขาคอมของรีเลย์ (18) ส่วนขาปกติปิด (NC) ของรีเลย์ (18) ต่ออนุกรมกับลวดความร้อน (13) ส่วนขาอีกข้างหนึ่งของสวิตซ์ (23) ต่ออนุกรมกับเทอร์โมสตัท (22) และต่ออนุกรมกับลวดความร้อน(13) โดยเมื่อสับสวิตซ์ไปที่โหมดต้มยา ขาของสวิตซ์ (23) จะต่อเข้ากับขาคอมของรีเลย์ (18) ซึ่งจะทำให้กระแสไฟไหลผ่านสวิตซ์ (23) ผ่านรีเลย์ (18) และผ่านลวดความร้อน (13) จะทำให้ลวดความร้อน (13) เกิดความร้อนขึ้น และความร้อนนี้จะถูกถ่ายเทไปสู่หม้อต้มและนํ้าในหม้อต้มด้วยทำให้นํ้าเดือด เรียกว่าต้มน้ำให้ระเหยเป็นไอ โดยเมื่อสับสวิตซ์ไปที่โหมดต้มนํ้าขาของสวิตซ์ (23) จะต่อเข้ากับเทอร์โมสตัท (22) ซึ่งจะทำให้กระแสไฟไหลผ่านสวิตซ์ (23) ผ่านเทอร์โมสตัท (22) และไหลผ่านลวดความร้อน (13) จะทำให้ลวดความร้อน(13) เกิดความร้อนขึ้นสามารถทำให้นํ้าเดือดได้ ------------ หน้าที่ 1 ของจำนวน 1 หน้า ข้อถือสิทธิ

1. กาต้มยาไฟฟ้า ที่ประกอบด้วยวงจรต้มนํ้าและวงจรตรวจจับระดับนํ้าดังนี้ ใช้ไฟกระแสสลับ AC (10) มีเทอร์โมสตัท (11) ไว้คอยตัดวงจรกระแสไฟเมื่อเกิดความร้อนมากเกินไป มีลวดความร้อน (12) สำหรับ อุ่นนํ้าให้ร้อนตลอดเวลา มีลวดความร้อน (13) สำหรับต้มนํ้าให้เดือดและระเหยเป็นไอ มี Relay (18) ทำหน้าที่ เป็นสวิตซ์ตัด-ต่อวงจร โดยใช้แม่เหล็กไฟฟ้า มีอุปกรณ์จ่ายกระแสไฟตรง DC (19) เพื่อจ่ายไฟให้กับ Relay (18) มีเซ็นต์เซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก (20) และแม่เหล็กถาวร (21) เพื่อบอกระตับนํ้า

2. กาต้มนํ้าต้มยาไฟฟ้า ที่ประกอบไปด้วยวงจรต้มนํ้าและวงจรต้มยาโดยสามารถเลือกโหมดการ ทำงานไต้ระหว่างต้มนํ้าร้อนกับต้มยาสมุนไพรตังนี้ ใช้!ฟกระแสสลับ AC (22) มีเทอร!มสตัท (23) ไว้คอยตัด วงจรกระแสไฟเมื่อเกิดความร้อนมากเกินไป มีลวดความร้อน (25) สำหรับอุ่นนํ้าให้ร้อนตลอดเวลา มีสวิทซ์ 2 ทาง (31) สำหรับเลือกโหมดการทำงานว่าจะต้มนํ้าร้อนหรือจะต้มยา กรณีเลือกต้มนํ้า มีเทอร!มสตัท (24) สำหรับควบคุมอุณหภูมิจะตัดกระแสไฟเมื่อนํ้าเดือด มีลวดความร้อน (26) สำหรับต้มนํ้าให้เดือด กรณีเลือกต้ม ยา เทอรั!มสตัท (24) จะไม่มีกระแสไฟไหลผ่าน กระแสไฟจะไหลผ่านไปเช้าขา C ของ Relay (32) และไหล ผ่านหน้าสัมผัสของขา NC ของ Relay (32) มาเช้าที่ลวดความร้อน (26) เป็นลวดความร้อนสำหรับต้มนํ้าให้ เดือด มีวงจรตัดกระแสไฟโดยใช้ Relay (32) ร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก (33) แม่เหล็กถาวร (35) และ แหล่งจ่ายไฟกระแสตรง (33) โดยจะมีลักษณะเฉพาะคือ มีสวิทซ์ 2 ทาง (31) เพื่อเลือกโหมดการทำงานว่าจะต้มนํ้าร้อนปกติหรือ จะต้มยาด้วยการวัดระดับนํ้าที่เหลืออยู่ในหม้อต้ม มีวงจรสำหรับตรวจจับระดับนํ้าโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับ แม่เหล็ก (34, 35) ร่วมกับ Relay (32) และแหล่งจ่ายไฟกระแสตรง (33)